ทาโกะยากิ (たこ焼き takoyaki)

ขอขอบคุณภาพจาก:https://th.sushiandsake.net/
สวัสดีครับทุกๆคน วันนี้ผมจะมาเเนะนำอาหารกินเล่นที่ทั้งอร่อย กรอบนอก นุ่มในเเละอัดไปด้วยไส้ของความอร่อยที่จะทำให้ทุกๆคนได้เพลิดเพลินเเละยังเป็นอาหารชื่อดังประเจ้าชาติอย่างประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย นั้นก็คือ "ทาโกะยากิ" นั่นเอง
ขอขอบคุณภาพจาก:https://th.sushiandsake.net/
“ทาโกะยากิ” (Takoyaki) เป็นชื่อของอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง บางทีภาษาไทยก็เรียกกันว่า “ขนมครกญี่ปุ่น” ทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น และเป็นอาหารยอดนิยมในแถบคันไซซึ่งหากดูตามรายการเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นเหมทาโกะยากิเป็นอาการที่ได้รับความนิยมในงานเทศกาลต่างๆ อย่างไรก็ตามตามร้านอาหารญี่ปุ่นก็มักจะมีเมนูทาโกะยากิเป็นอาหารทานเล่นเช่นกัน
ลักษณะของทาโกะยากิ จะเป็นลูกกลมๆทอดจนเป็นสีน้ำตาลราดด้วยซอสและมายองเนสแล้วโรยหน้าด้วยผงสาหร่ายและแผ่นปลาแห้ง ส่วนผสมของทาโกะยากินั้นจะประกอบด้วยน้ำแป้ง, ขิงดอง, แป้งทอด, หอมสับ , แล้วก็ที่ขาดไม่ได้คือหนวดปลาหมึกยักษ์ (Tako) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อทาโกะยากินั่นเอง และอีกคำหนึ่งคือ “Yaki” ก็แสดงถึงวิธีทำก็คือการเอาส่วนผสมเหล่านี้ลงไปทอดในกระทะที่มีลักษณะเป็นหลุมนั่นเอง
![]() |
ขอขอบคุณภาพจาก:https://th.sushiandsake.net/ |
- แป้งเค้ก 150 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำซุปคัตสึโอะ 2 ถ้วยตวง
- น้ำมัน
- ปูอัด หั่นเป็นท่อนเล็ก
- ไข่กุ้ง
- สาหร่าย
- ผงปลาคัตสึโอะ
- กะหล่ำปลี
- แครอท
- ซอสทงคัตสึ
- มายองเนส
- 18. ต้นหอมซอย
- นำแป้งเค้ก ผงฟู น้ำตาลทราย เกลือ นมสด โชยุ และน้ำซุปปลาคัตสึโอะ ใส่อ่างผสมแล้วคนให้เข้ากัน(สามารถเพิ่มโชยุและน้ำตาลได้ตามชอบ)
- นำเครื่องทำทาโกะยากิมาเปิดไว้จนเตาร้อน ใช้กระดาษทิชชู่ชุบน้ำมันแล้วทาที่เตาให้ทั่ว แล้วหยอดแป้งที่ผสมไว้ลงไป 3/4 ของหลุม แล้วใส่กะหล่ำปลี แครอท ปูอัด ต้นหอมลงไป รอจนด้านล่างสุก สามารถใช้ไม้แคะพลิกให้เป็นแนวตั้ง แล้วหยอดแป้งลงไปให้เต็มหลุมอีกครั้ง หลังจากนั้นทำซ้ำๆ จนเป็นก้อนกลมๆ สุกทั่วลูก
- นำทาโกะยากิที่สุกแล้วจัดใส่จาน ราดด้วยซอสทงคัตสึ บีบมายองเนส ใส่ไข่กุ้ง สาหร่าย ผงปลลาคัตสึโอะลงไป ตกแต่งให้ดูน่าทานพร้อมเสิร์ฟ
ขอขอบคุณภาพจาก:https://bang2909.wordpress.com/ |
ขอขอบคุณภาพจาก:http://mochit2.com/ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น